สาระน่ารู้

เช็คความพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

เช็คความพร้อมก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน

การซื้อบ้านซักหลังนั้น ถือว่าเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่เลยทีเดียวค่ะ เป็นสินค้าที่ไม่ใช่ของที่จะหาซื้อได้บ่อยๆ ทั่วไป สำหรับบางคนแทบจะเป็นโอกาสเดียวที่จะทำได้ของชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้น การวางแผนให้มีความพร้อมก่อนตัดสินใจจะซื้อบ้านซักหลังนั้น จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ยิ่งถ้าใครไม่ได้มีเงินก้อนโตที่จะจ่ายสดได้โดยไม่มีปัญหา ก็ต้องกู้บ้าน ซึ่งก็จะทำให้มีภาระหนี้สินอันยาวนาน แต่เราก็ต้องมาคิดค่ะว่าหนี้สินที่ยาวนานนั้นจะคุ้มกับบ้านที่เราซื้อมาหรือไม่ 


1. ถามกับตัวเองถึงความจำเป็นในการมีบ้าน

ก่อนอื่นเลย ต้องมาตั้งสติ แล้วมาพิจารณาให้ดีก่อนค่ะ ว่าเรามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหนที่จะมีบ้านในเวลานี้ เช่น เป็นมนุษย์เงินเดือนที่อาศัยอยู่ในบ้านพ่อแม่ แต่มีเงินเดือนเพียงรายได้ขั้นต่ำ ความจำเป็นในการมีบ้านตอนนี้ก็อาจจะตัดไปก่อน แต่ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ต้องเช่าอพาร์ตเม้นต์อยู่ และมีแผนที่จะอยู่ที่นี่ในระยะยาว ก็อาจจะมองหาเป็นคอนโด แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูรายได้ของเราด้วยค่ะ (ซึ่งถ้าใครจะมีทางบ้านช่วยเป็นเงินก่อน หรือช่วยตอนผ่อนก็ไม่ว่ากันค่ะ) เพราะเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ความจำเป็นในการซื้อบ้านนั้นเป็นเรื่องความพร้อมของเงินเป็นหลักเลยค่ะ ต่อให้เราอยากได้บ้าน แต่ไม่มีเงินมากพอ ก็อาจจะต้องจะพักโปรเจ็คไว้ก่อน แล้วมองหาที่อยู่อาศัยที่เหมาะกับเราตอนนั้นไปก่อนค่ะ


2. คำนวณความสามารถในการกู้-ผ่อนบ้าน

เมื่อตัดสินใจแน่ชัดแล้วว่าอยากได้บ้านจริงๆ ทีนี้ก็ต้องมาดูในเรื่องของความสามารถในการกู้บ้าน และผ่อนบ้านในแต่ละเดือน ซึ่งจะเป็นเรื่องของรายได้ และเครดิตทางการเงินของเรา ถ้าหากต้องการคำนวณคร่าวๆ ว่าเราจะสามารถผ่อนบ้านได้ไหวไหม ให้คิดจากรายได้แต่ละเดือนของเรา ว่ายอดหนี้ที่ผ่อนแต่ละเดือนต้องไม่เกิน 40-50% ของรายได้ เพื่อที่จะได้ไม่รัดตัวเกินไป และเป็นอีกข้อที่ทางสถาบันการเงินจะเอามาพิจารณาว่ากู้ผ่านหรือไม่ด้วยค่ะ

กรณีที่เรามีหนี้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นหนี้ผ่อนรถ หนี้บัตรเครดิต ก็ต้องเอามารวมกับหนี้บ้านที่จะกู้ด้วยค่ะ ให้รวมกันไม่เกิน 40-50% อย่างไรก็ตามตัวเลขที่จะกู้ได้ ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การพิจารณาของแต่ละสถาบันการเงินที่แตกต่างกันไป


3.เลือกทำเลที่ใช่ กับแบบบ้านที่ตอบโจทย์

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะซื้อบ้านจริงๆ ทั้งคำนวณว่าแต่ละเดือนสามารถผ่อนบ้านได้ไหว มีเงินที่สามารถกู้ซื้อบ้านได้เท่านี้ๆ อีกทั้งยังเคลียร์หนี้จนเกลี้ยงแล้ว ทีนี้ก็ต้องมาเลือกดูทำเลที่ต้องการ และแบบบ้านที่สอดคล้องกัน เช่น ต้องการอาศัยอยู่ในเมือง ใกล้แหล่งชุมชน เป็นต้น


4. เตรียมเอกสารให้พร้อม

สิ่งจำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมเมื่อคิดจะซื้อบ้าน นั่นคือเรื่องของการเตรียมเอกสาร โดยถูกแบ่งออกเป็น

เอกสารทั่วไป ซึ่งได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบสมรส (ถ้ามี) ใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)

เอกสารหลักประกันต่างๆ

เอกสารแสดงรายได้

ซึ่งผู้กู้จำเป็นต้องจัดแจงให้เรียบร้อย เพื่อช่วยร่นระยะเวลาให้ธนาคารชั้นนำอนุมัติสินเชื่อบ้านเร็วยิ่งขึ้น


5. เตรียมเงินสด เพื่อเป็นเงินดาวน์ และเงินสำรอง

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะคำนวณแล้วว่าเงินเดือนเรานั้นสามารถผ่อนจ่ายต่อเดือนได้สบาย แต่อย่าลืมว่าค่าใช้จ่ายในการเซ็นสัญญานั้นก็ต้องใช้เงินสดอีกจำนวนหนึ่งเช่นกัน เช่น ค่าทำสัญญา, ค่าจอง, หรือค่าดาวน์เป็นต้น ซึ่งโดยทั่วไป จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5-20% ของราคาโครงการนั้น นอกจากวันจองแล้ว ยังมีวันโอนกรรมสิทธิ์ที่ต้องมีค่าจดจำนอง ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าประกัน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคของโครงการอีกด้วย ซึ่งก็ควรมีเงินสดอีกประมาณ 10% ของราคาโครงการนั้นเช่นกัน 


cr: https://www.checkraka.com/house/article/128504